วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

มือใหม่หัดเลี้ยงเดฟกระเป๋า

เดฟกระเป๋า

Dischidia pectinoides Pear

ASCLEPIADACEAE

           ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้ปลูกเลี้ยงเดฟกระเป๋าเป็นอาชีพ แต่เกิดจากการลองผิดลองถูก แล้วขอนำมาแบ่งปันครับ
           เดฟกระเป๋า เป็นไม้ในกลุ่มเดฟ มีใบเล็ก ๆ โดยที่มีบางใบเปลี่ยนรูปไปจนมีลักษณะเหมือนกระเป๋า มีดอกเล็ก ๆ สีแดง (ชนิดใบด่างดอกเป็นสีชมพู) มีรากตามข้อไว้สำหรับยึดเกาะ
           เดฟกระเป๋าก็เหมือนไม้ในกลุ่มเดฟทั่วไป คือสามารถทนแล้งได้ ไม่ชอบที่ชื้นแฉะ ต้องการแสงแดดเพื่อสังเคราะห์แสง
           การปลูกเลี้ยงโดยทั่วไป มักจะปลูกในที่ร่มหรือมีแดดรำไร เช่นในตัวอาคาร ห้องน้ำ หรือแขวนไว้ริมระเบียง และมักจะรดน้ำทุกวันเพราะกลัวไม้จะเหี่ยว ผลที่ตามมาแล้วมักเป็นปัญหาหลัก ก็คือ เดฟมักจะสิ้นชีพเพราะอาการรากเน่า เพราะเครื่องปลูกชื้นเกินไป
           การแก้ปัญหาในเบื้องต้น คือ การตัดส่วนที่เน่าเสียทิ้ง เหลือไปเพียงส่วนที่ยังเขียวอยู่ แล้วปลูกใหม่ แล้วปรับวิธีการให้น้ำ โดยให้น้ำน้อยลง วันเว้นวัน หรือเว้นสองวันก็ได้ หรือดูว่าเครื่องปลูกแห้งแล้วค่อยรดน้ำ
           แดด  จริง ๆ แล้วเดฟกระเป๋าสามารถโดนแดดได้ทั้งวัน ยิ่งโดนแดดมากก็จะยิ่งลดปัญหารากเน่าได้มากขึ้นแต่ใบอาจจะไม่เขียวสดเท่าอยู่ในที่รำไร (เดฟกระเป๋าไม่ค่อยจะมีปัญหาแห้งตายสักเท่าไหร่)
           เครื่องปลูก ก็ใช้กาบมะพร้าวล้วน ๆ หรือใช้ก้อนถ่าน หรือดินเผา เพื่อให้ระบายน้ำได้เร็ว (การปลูกโดยการให้เกาะกับต้นไม้ก็สามารถทำได้และโอกาสตายค่อนข้างต่ำ)
           ปุ๋ย  มักใช้ปุ๋ยออสโมโคส 3-6 เดือนครั้ง (แล้วแต่สูตร) หรือปุ๋ยละลายน้ำพ่น



หลังจากปลูกกลางแดด 1 เดือน ต้นปกติ ออกกระเป๋าเรื่อย ๆ 

หลังจากปลูกไปแล้ว 2 เดือน ในช่วงระหว่างเดือนมีนา - พฤษภา กลางหน้าร้อนแดดเปรี้ยง ๆ น้ำรดบ้างไม่รดบ้าง ต้นเดฟกระเป๋าก็ไม่มีทีท่าที่จะแห้งตายแต่อย่างใด ยังคงปกติดีอยู่ ออดกระเป๋าให้เชยชมอยู่เรื่อย ๆ
ถ้าอย่างนั้นก็พอจะสรุปสาเหตุการสิ้นชีพของเดฟกระเป๋าคร่าว ๆ ดังนี้
1. ด้วยความชื้นที่ผู้ปลูกเอาใจใส่รดน้ำมากจนเกินไป เพราะดูลักษณะเหมือนไม้ที่ต้องการน้ำมาก จริง ๆ แล้วไม้กลุ่มเดฟต้องการน้ำน้อยมาก ๆ ยิ่งถ้าจับพันไว้กับต้นไม้ใหญ่เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องรดน้ำได้เลยด้วยซ้ำ
2. แดดที่ได้ค่อนข้างน้อย เพราะเมื่อถามคนขาย ร้อยละร้อยจะบอกว่าแดดรำไร ที่ดีที่สุดคือควรจะได้แดดมากพอที่จะทำให้เครื่องปลูกที่ส่วนใหญ่เป็นกาบมะพร้าวแห้งได้ภายในวันเดียว เพื่อไม่ให้รากเน่า
3. โรคประจำตัว ส่วนใหญ่ก็คือรากเน่า ร้านค้าส่วนใหญ่ฉีดพ่นยากันเชื้อราป้องกันรากเน่าไว้ด้วย แล้วก็ฉีดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ค่อยแนะนำให้ผู้ซื้อฉีดสักเท่าไหร่นัก ผลที่ตามมาก็คือ คนซื้อไปจะมีปัญหารากเน่าอย่างรวดเร็ว

การขยายพันธุ์
เช่นเดียวกับเดฟ และพืชในกลุ่มโฮยา เดฟกระเป๋าจะมีรากตามข้อสามารถตัดไปปักชำในกาบมะพร้าวได้ (รอให้ยางแห้งก่อนเพื่อไม่ให้เกิดรา หรือพ่นยากันเชื้อราก่อนก็ได้) และเดฟกระเป๋าจะมีเมล็ด เป็นเมล็ดเล็ก ๆ มีขนเพื่อให้ปลิวลม  สามารถเก็บเมล็ดไปเพาะพันธุ์ได้เช่นกัน

9 ความคิดเห็น:

  1. ปลูกเหมือนกันค่ะ นึกว่าเดฟจะชอบน้ำ เอาแช่น้ำ เช้า กลางวัน เย็นเลย ไม่ถึงสองอาทิตย์รากเน่า เซ็งเลย

    ตอบลบ
  2. ผมว่าเกือบทุกคนก็คิดเช่นนั้นครับ แต่พวกเดฟส่วนใหญ่เป็นไม้อิงอาศัย เกาะติดกับไม้อื่น เลยต้องการน้ำไม่มากนักครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ20 กันยายน 2557 เวลา 10:03

    ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะซื้อมากระเป๋าหลายใบเลยค่ะอยู่อาทิตย์เดียวเริ่มเน่าทีละกระเป๋าลดน้ำเยอะแน่เลยค่ะตอนนี้เอาส่วนที่เน่าและเริ่มดำทิ้งเหลือที่ยังเขียวบ้างเอาไปไว้ระบียงเพื่อให้โดนแดดค่ะไม่รู้จะเป็นอย่างไรขอให้รอดเพราะชอบค่ะน่ารักและสวยดีนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอาใจช่วยครับ ฤดูนี้ค่อนข้างต้องระวัง เพราะฝนตกบ่อย ควรแขวนใต้ชายคาที่ไม่โดนน้ำฝนครับ จะช่วยได้เยอะ

      ลบ
  4. ตอนนี้ก็ปลูกค่ะ แต่เป็นเดฟธรรมดา ตอนนี้ขึ้นยอดสวยมากค่ะ ว่าจะลองซื้อปุ๋ยออสโมโคสมาใช้ดูค่ะ

    ตอบลบ
  5. อยากให้เห็นรูปบ้างจัง

    ตอบลบ
  6. ใครสนใจต้นเดฟซื้อได้ที่ตลาดเรียบด่วนนะคะ ร้านจะขายเฉพาะวัน จันทร์ อังคาร พุธ แต่ต้องเดินหาร้านนิดนึงนะคะเพราะแต่ละวันจะตั้งไม่อยู่กับที่ ตามกฏของตลาด เดฟร้านนี้สวยค่ะ และถูก แค่ต้นละ20บาทเองค่ะ เราขอเบอร์แม่ค้ามาด้วยแหละเผื่อจะหาร้านง่ายขึ้น 0996835863

    ตอบลบ
  7. อยู่ดีๆกระเป๋ามันออกมีม้วง ใบเริ่มเหลือง มันจะตายมั้ยค่ะ เลี้ยงมาตั้งนานไม่เคยเป็นเลย จะทำไงดีช่วยบอกวิธีหน่อยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ออกมีม้วง คือ?
      ใบเรื่มเหลือง โดนฝนมากหรือเปล่าครับ มีอาการเน่าร่วมด้วยมั๊ย ตัดส่วนที่เน่า ผึ่งให้แห้ง พ่นยาสำหรับเชื้อราครับ

      ลบ