เอื้องดอกมะเขือติดขอน |
กล้วยไม้ป่า มีหลายร้อยชนิด แบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ คือ
1.กล้วยไม้กินซาก เป็นกลุ่มที่พบได้ยากมีอยู่ไม่กี่ชนิด
2.กล้วยไม้อิงอาศัย เป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่กับต้นไม้ชนิดอื่น ๆ เป็นกลุ่มที่มีจำนวนเยอะที่สุด
3.กล้วยไม้ดิน เป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่บนดิน หรือหิน
เอื้องแปรงสีฟันบนขอนไม้ |
การปลูก เดิมจะปลูกเลี้ยงคล้ายกับกล้วยไม้โดยทั่วไปคือ ใช้กาบมะพร้าวเป็นเครื่องปลูก ในปัจจุบันมีการใช้วัสดุอื่น ๆ เช่นถ่านทุบ อิฐทุบ ดินเผา มอส ฯลฯ มาใช้ในการปลูก ซึ่งก่อนจะเลือกเครื่องปลูกเราควรศึกษารายละเอียดของต้นที่เราต้องการปลูกเสียก่อน
รองเท้านารี |
2.การให้น้ำหรือปุ๋ย เนื่องจากธรรมชาติกล้วยไม้จะได้รับอาหารจากต้นไม้หรือพื้นดินที่อยู่ แต่เมื่อปลูกในกระถาง อาจจะได้รับอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ
3.ฤดูกาลออกดอก เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างมาก เพราะมีผลกับอารมณ์อย่างยิ่ง เช่น ปลูกกล้วยไม้ที่ออกดอกหน้าหนาว ถิ่นกำเนิดคือยอดดอย แต่ต้องการปลูกในกรุงเทพที่อากาศร้อนแม้ในหน้าหนาวก็ตาม โอกาสที่ออกดอกก็ยาก
เขากวางอ่อน |
การปลูก เมื่อเรารู้แล้วว่าแหล่งธรรมชาติเป็นอย่างไร ก็ถึงเวลาปลูกแล้ว
1.พวกอิงอาศัย มีให้เลือกคือ เกาะกับต้นไม้ หรือปลูกในกระถาง
สำหรับการปลูกแบบเกาะต้นไม้ ต้นที่เหมาะคือต้นที่เปลือกไม่เรียบ สามารถเก็บความชื้นที่เปลือกได้ดี
สำหรับการปลูกในกระถาง สามารถปลูกได้ทั้งกาบมะพร้าว ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ ฯลฯ แต่ที่นิยมคือใช้วัสดุที่ทนทาน อุ้มน้ำได้ดี บางครั้งสามารถจับปลูกกับกระถางดินเผาได้โดยไม่ต้องมีเครื่องปลูกร่วมด้วยก็ได้ หรือปลูกกับขอนไม้ซึ่งมีวางจำหน่ายทั่วไป ซึ่งการหลีกเลี่ยงกาบมะพร้าวจะดีตรงที่รากกล้วยไม้จะไม่ได้รับน้ำมากเกินไป ทำให้พบปัญหารากเน่าน้อยลง
ไอยเรศ |
ทั้งสองแบบหากปลูกด้วยกาบมะพร้าวสับควรหมั่นเปลี่ยนเครื่องปลูกเมื่อกาบมะหร้าวหมดอายุ
การให้ปุ๋ยมักให้ออสโมโคส หรือปุ๋ยละลายน้ำฉีดพ่น
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาใจใส่ ดูแลรักษา เพราะไม่มีวิธีปลูกกล้วยไม้ที่ทำให้อยู่รอดและออกดอก 100 เปอร์เซนต์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลจากเจ้าของ ต้องหมั่นสังเกตว่าเราปลูกต้นไม้วางไว้ส่วนไหนของบ้าน รดน้ำมากน้อยเท่าไหร่ ให้ปุ๋ยมากน้อยขนาดไหน จึงจะงามมากที่สุด เป็นสิ่งที่ไม่มีใครบอกได้ เพราะเป็นธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่มีหลักการตายตัวเหมือนคณิตศาสตร์
กะเรกะร่อน |